หนึ่งในตำนานของวงการอย่างซีรีส์เกม Ninja Gaiden ที่มีประวัตินานมาตั้งแต่สมัยแฟมิคอมในต้นแบบ 2D
ที่มีชื่อเสียงเรื่องความยากแบบสุดเลวร้าย เกมส์อีสปอร์ต รวมถึงถัดจากนั้นก็มีการกำเนิดใหม่กับเกมชื่อเดียวกันกับการเปลี่ยนมาสู่โลก 3D ที่สามารถทำเป็นบรรลุผลไม่แพ้กัน และก็ปัจจุบันนี้นินจาในตำนานกลับมาอีกครั้งในแบบรวมเป็นที่นิยมในชื่อเกม Ninja Gaiden Master Collection ที่มาขายใหม่บน PS4 , Xbox One , Nintendo Switch และ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะโดย Ninja Gaiden Master Collection เป็นการรวมเป็นที่นิยมเอาสามเกมที่มีทั้ง Ninja Gaiden Sigma, Ninja Gaiden Sigma 2 รวมทั้ง Ninja Gaiden 3: Razor’s Edge ที่เป็นการกลับมาเกิดใหม่ของนินจาในตำนานแบบ 3 มิติซึ่งเห็นผลงานของผู้สร้างในตำนานอย่างคุณแว่นตาดำ Tomonobu Itagaki (เว้นเสียแต่ภาคสาม) ที่เป็นจุดเริ่มของเกมนินจาเลือดสาดที่ทั้งรุนแรงและมีความยากแบบสุดเหี้ยมโหดอำมหิต ชนิดศัตรูธรรมดาตัวเดียวก็อัดเราตายได้อย่างสะดวกสบายเรียกว่าจะเหม่อระหว่างเล่นไม่ได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว รวมทั้งการมาแบบผูกรวมสามเกมจัดว่าคุ้มแม้ว่าจะไม่ได้เพิ่มเติมอีกอะไรมาเยอะแยะซักเท่าไหร่ก็ตาม กราฟิกดังเดิม แม้กระนั้นเฟรมเรตลื่นขึ้นสำหรับการกลับมาของนินจา 3 ภาค ผูกรวมกันไม่ได้เป็นการรีมาสเตอร์ หรือปรับภาพอะไรใหม่เลยเป็นการเอามาขายใหม่เท่านั้นทำให้กราฟิกในเกมไม่ได้ปรับให้ชัดระดับ 4K ตามตอนอะไร แต่ของเดิมก็เป็น HD อยู่แล้วแม้ว่าจะเป็นกราฟิกจากเกมสมัยโบราณถึงแม้ก็ถือว่าเพียงพอยอมรับได้ ถึงแม้ว่าที่ต้องมองเป็นเฟรมเรตในเกมที่ลื่นไหลไม่มีสะดุดตลอดการเล่นอีกทั้ง 3 ภาค อย่างไรก็ดีบน Nintendo Switch จะพบว่าผู้สร้างได้ใช้ความละเอียดแบบเปลี่ยนตลอด มีหลายฉากที่เช็ดถูดลดความแหลมคมชัดให้ต่ำกว่าระดับ HD ด้วยทำให้น่าผิดหวังบ้างสำหรับบน Switch
More Stories
สดจัด Defense Derby เกม TD สุดปรี๊ดต้องลอง ลูกเล่นใหม่ให้เยอะจริง
Rainbow Six Siege เปิดเผยปีที่ 7 ซีซัน 3
Project R เกม Blockchain สาย Esports แนวจัดทีมแบทเทิ่ล